เริ่มต้นฤดูใบไม้เปลี่ยนสี คนญี่ปุ่นจะเดินทางเที่ยวชมธรรมชาติ ก่อนความหนาวเย็นและหิมะขาวโพลนจะมาเยือน
หุบเขาโครังเค Korankei ไม่ไกลจาก เมือง Nagoya คนท้องถิ่นรู้ดีว่า ที่นี่เป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสี ที่สวยงามเป็นอันดับต้นๆของญี่ปุ่น หุบเขาอยู่ในหมู่บ้าน Asuke มีสายน้ำโอบล้อมภูเขา Imori ความสูง 254 เมตร ด้านบนเป็นที่ตั้งของวัด Kojakuji
กว่า 300 ปี ที่แล้ว เจ้าอาวาสวัด Kojakuji เริ่มปลูกต้นเมเปิ้ล Maple บริเวณวัด ต่อมาชักชวนชาวบ้านให้มาช่วยปลูกเพิ่มเติมจนเต็มหุบเขา ถึงวันนี้มีต้นเมเปิ้ลมากกว่า 4000 ต้น ฤดูใบไม้ร่วงที่นี่ จึงเป็นจุดชมความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่ตื่นตาตื่นใจ ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาเยี่ยมเยือน
สะพาน Taigetsukyo สีแดงจ้า เดินข้ามแม่น้ำ Tomoe เป็นจุดชมวิวชั้นเยี่ยม ทุกคนต้องหยุดถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ผมหยุดตัวเองกลางสะพาน สูดหายใจลึกๆ ค่อยๆชื่นชม สายน้ำ โขดหิน เฝ้าสังเกตุต้นไม้หลากสี เขียว เหลือง ส้ม แดง บางมุมขัดแย้ง บางมุมกลมกลืน พริ้วไหว สวยงาม หันมองไปรอบตัว ธรรมชาติทำให้ทุกคน มีแต่รอยยิ้ม มีความสุข
ข้ามสะพาน เดินลัดไปตามถนนเลียบแม่น้ำ หยุดถ่ายรูปได้ทุกมุม ระหว่างทางมีร้านค้าเล็กๆให้นั่งจิบชาพักเหนื่อย ก่อนถึงทางขึ้นวัด มีลานกว้างแสดงงาน Maple Festival งานรื่นเริงประจำปี ขายอาหาร ของที่ระลึก หลายซุ้มขายเครื่องปั้นดินเผา ผมสนใจงานชามใบหนึ่ง วาดลวยลายเป็นปลาบิน ปากแหลมสีฟ้าสดใส ศิลปินพื้นบ้านที่ขายงานให้ผม พูดภาษาอังกฤษได้นิดหน่อย เมื่อรู้ว่าเป็นคนต่างชาติ ลดราคาให้ทันที



เดินต่อไปจนสุดทางเลียบแม่น้ำ มีหมู่บ้าน The Sanshu Asuke Yashiki Village ให้นักท่องเที่ยวได้ชมวิถีชีวิตของคนชนบท เลี้ยงวัว ปลูกผัก มีช่างฝีมือนั่งทำงานในบ้านแต่ละหลัง กลึงไม้ สานตะกร้า ตีมีด ย้อมผ้า ทำกระดาษสา ทำร่ม เผาถ่าน ให้นักท่องเที่ยวได้เห็นการทำงาน และแลกเปลี่ยนประสพการ์ณได้อย่างใกล้ชิด ผมชอบที่นี่มาก จำลองชุมชนชนบทขนาดย่อมได้อย่างน่าสนใจ เห็นงานที่ทำด้วยมือ และได้รับการออกแบบออกแบบอย่างมีศิลป ใครที่หลงไหลงาน Craft ต้องไม่พลาด เห็นแล้วก็อดเปรียบเทียบไม่ได้ ความคิดสร้างสรรค์ ความตั้งใจ ความปราณีต ความสะอาด เป็นคุณค่าสำคัญของคนญี่ปุ่นที่ได้รับการสนับสนุนอย่างจริงจัง จนล้ำนำหน้าเราไปไกล
เราใช้เวลาหลายชั่วโมงที่นี่ เพราะเป็นจุดท่องเที่ยวที่ครบครัน มีธรรมชาติสวยงาม มีเทศกาลขายของที่ระลึกที่สนุกสนาน มีหมู่บ้านช่างฝีมือที่น่าสนใจ และมีร้านอาหารอร่อยมากมายให้ได้ทดลองชิม แนะนำว่าต้องวางแผนการเดินทางให้ดี และหากเป็นไปได้ให้หลีกเลี่ยงวันเสาร์ อาทิตย์
ขากลับ สองข้างทางมีแผงขายอาหาร ผลไม้ ต้นไม้ ดอกไม้ ผมซื้อปลาหมึกย่างตัวโต ลูกพลับสด ทานแก้หิว นั่งพักส่งรูปสวยๆให้เพื่อนๆที่เมืองไทยร่วมชื่นชม ด้วยหวังว่าเราทุกคนจะสามารถจัดสรรเวลาของชีวิตให้มีเวลาได้เดินทางมากขึ้น ใกล้ชิดธรรมชาติได้บ่อยยิ่งขึ้น
ทรงศักดิ์ เปรมสุข
ข้อมูลเพิ่มเติม
ภาพประกอบจาก
http://www.japan-guide.com/e/e3316.html
ข้อมูลการเดินทาง จาก
Facebook Page: ยินดีต้อนรับสู่ไอจิ / Welcome to Aichi@welcometoaichi
การเดินทางไป Korankei จากนาโกย่า
นั่งรถไฟสาย Meitetsu จากสถานี Nagoya ไปทาง Okazaki/Toyohashi (岡崎/豊橋)และลงที่สถานี Higashi Okazaki (東岡崎)และต่อรถเมล์สายที่ไป Asuke(足助)(ขึ้นรถเมล์ที่ชานชาลาที่ 4) และลงที่ป้าย Korankei(香嵐渓)(โดยใช้เวลาในการเดินทางจาก Higashi Okazaki ถึง Korankei ประมาณ 60 นาทีและค่ารถเมล์ 800 เยน) และเดินประมาณ 3 นาทีจากป้ายรถเมล์ก็จะถึง Korankei
